กรุงเทพ 14 พฤศจิกายน 2568 - บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปี 2568 โดยบริษัทมีรายได้จากการขาย เท่ากับ 2,041.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากรายได้ภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่โดยรวมยังเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป บริษัทจึงได้ดำเนินแผนส่งเสริมการขายและเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติการในตลาด ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 4 บริษัทคาดหมายว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านการบริโภคและการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นจะช่วยทำให้เศรษฐกิจภาคใต้และยอดขายของบริษัทเติบโตได้ต่อเนื่อง

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในเครือ “โคคา-โคล่า” ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ แถลงผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 โดยบริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 2,041.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยข้อมูลรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคใต้ของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ พบว่าเศรษฐกิจภาคใต้ไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหรือประมาณ 1% อันเป็นผล มาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับอานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนประมาณ 4.3% ในขณะที่รายได้จากภาคเกษตรกรรมที่มีสินค้าหลัก คือ ทุเรียน ปาล์มน้ำมัน และยางพาราปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน ประมาณ 7% ส่งผลให้การฟื้นตัวของกำลังซื้อโดยรวมเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมสอดคล้อง โดยจากการที่ต้นทุนราคาวัตถุดิบที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบริษัทมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในส่วนของบรรจุภัณฑ์ ทำให้ใช้ปริมาณวัตถุดิบน้อยลง ส่งผลให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีและมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 872 ล้านบาท หรือประมาณ 42.7% เพิ่มขึ้น 2.2 จุดเปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทได้ใช้แผนการตลาดในการส่งเสริมยอดขาย ทำให้ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร (SG&A expenses) รวมเท่ากับ 735.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิประจำไตรมาสเท่ากับ 131.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้มุมมองต่อธุรกิจในปัจจุบันว่า “ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาแม้จะดีขึ้นบ้างจากภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นจากไตรมาสก่อน แต่กำลังซื้อในภาพรวมยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การที่เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการผลิตได้ดี เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบกับธุรกิจของเราได้ค่อนข้างมาก การที่เรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสามารถจัดรายการส่งเสริมการขายได้ตรงใจผู้บริโภค โดยเฉพาะการแถมแก้วโคคา-โคลา มีส่วนช่วยทำให้ตัวเลขยอดขายออกมาค่อนข้างดี แม้เศรษฐกิจอาจจะไม่เป็นใจมากนัก ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่นด้านการท่องเที่ยว และการที่ภาครัฐมีมาตรการออกมากระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนจะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนให้กำลังซื้อใน ไตรมาส 4 เติบโตต่อไปได้จากไตรมาสนี้ แต่เราก็ต้องทำงานหนักเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง”

จากข้อมูลของบริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (NARTD) ในพื้นที่ภาคใต้ ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 เติบโต 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเป็นการเติบโตของกลุ่มน้ำดื่ม 4.4% ขณะที่กลุ่มน้ำอัดลมและกลุ่มน้ำผลไม้พร้อมดื่มหดตัว 3.1% และ5.5%ตามลำดับ บริษัทเป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีมูลค่าส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 23.5% และมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ที่ 78.3%