ความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม
Energy & Climate Change
แม้ว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของอาหารและเครื่องดื่มในอัตรากว้าง ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเพิ่มผลกระทบต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสำคัญระดับโลก หาดทิพย์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฯ ได้ให้ความสำคัญ และมีความตระหนักถึงผลกระทบจากการการดำเนินงานต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี จึงมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบอันเกิดจากการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายในการควบคุมและลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามมาตรฐานสากล ซื่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการให้ความร่วมมือระดับโลกในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
ผลการดำเนินการ
หมายเหตุ:
- ขอบเขตการรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ประกอบด้วย โรงงานหาดใหญ่ จ.สงขลา และโรงงานพุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2567
- ข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปี 2567 อยู่ระหว่างขอการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.)
- ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิต = ผลรวมของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1 และ Scope 2
- ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ ประเภทที่ 3 (Scope3) เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในการคำนวณและรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 5, มกราคม 2564) โดยพิจารณาจากกิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง (Category 1 - การได้มาของวัตถุดิบหลัก)
- ค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Factor) อ้างอิงจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.)
ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
แผง
สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งหมด
กิโลวัตต์ / ต่อปี
ลดก๊าซเรือนกระจกได้
kgCO2e
บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (emission management) และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัท The Coca-Cola Company และภาครัฐ และเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการเรื่องนี้อย่างมีแผนงานที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการจัดการก๊าซเรือนกระจกไว้ดังนี้
- กำหนดกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการ และการลดก๊าซเรือนกระจก ให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์องค์กร ครอบคลุมการดำเนินกิจการตลอดห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
- ส่งเสริมการสร้างสร้างวัฒนธรรมองค์กรคาร์บอนต่ำ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสะอาด โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต เพื่อให้แนวทางการดำเนินธุรกิจสอดคล้องต่อแผนการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ โดยมีการกำหนดเป้าหมายขององค์กรด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero 2050) ภายในปี 2593
- การสร้างวัฒนธรรมองค์กร ส่งเสริมกิจกรรมหรือโครงการ ผ่านการให้ความรู้ ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และสนับสนุนพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแก่พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียในทุกระดับ
- ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน โดยให้ความสําคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์และบริการ ที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้น้อยที่สุด
- ติดตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขั้นในองค์กร กำหนดเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และหาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง
- ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นการนำพลังงานสะอาดหรือพลังงานทางเลือกมาทดแทนการใช้พลังไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงแบบเดิม
การบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
หาดทิพย์ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของพลังงานในฐานะทรัพยากรหลักในการผลิตและการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่ม พลังงานที่ใช้ส่งผลโดยตรงต่อทั้งต้นทุนการดำเนินงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการพลังงานอย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนผ่านไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียน
กลยุทธ์การจัดการพลังงานของหาดทิพย์
บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การจัดการพลังงานครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่
- การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต: มีการติดตั้งระบบตรวจสอบพลังงาน (Energy Monitoring System) เพื่อวิเคราะห์การใช้พลังงานและระบุจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เช่น การปรับแรงดันลม การซ่อมแซมท่อรั่วในระบบลม และการควบคุมอุณหภูมิเครื่องทำความเย็นให้เหมาะสม
- การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานหมุนเวียน: บริษัทฯ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รวมกว่า 9,000 แผง ทั้งในรูปแบบ Solar Roof และ Solar Floating ที่โรงงานหาดใหญ่และพุนพิน ซึ่งช่วยผลิตพลังงานหมุนเวียนคิดเป็น 13% ของพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
- การออกแบบและกระบวนการผลิตเพื่อใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ: โครงการพัฒนาสายการผลิตขวดแก้วใหม่ ช่วยลดความสูญเสียพลังงานในขั้นตอนการผลิต และยังรองรับการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร
Haadthip Initiative
Water Management
ทรัพยากรน้ำเป็นวัตถุดิบหลักในการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียทรัพยากร เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว หาดทิพย์เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานและหน่วยงาน เพื่อรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพและลดการสูญเสียทรัพยากร พร้อมกำหนดเป้าหมายด้านการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน เนื่องด้วยหาดทิพย์มีการใช้น้ำบาดาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ หากไม่สามารถจัดการการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพได้ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ รวมทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่มีการพึ่งพาแหล่งน้ำภูมิภาคเดียวกัน เพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน บริษัทฯ จึงมีการประเมินความเสี่ยงของแหล่งน้ำเพื่อการผลิตอย่างยั่งยืน ผ่านการประเมินด้วยตนเองตามระบบมาตรฐาน The Coca-Cola Company ครอบคลุมประเด็นความเสี่ยงด้านการใช้น้ำต่างๆ พร้อมทั้งการประเมินร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีการจัดประเมินความเสี่ยงแหล่งน้ำทุกๆ 5 ปี ภายใต้มาตรฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ Water Framework Directive (WFD) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤตอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำต่อการดำเนินธุรกิจ ชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงวางแผนการบริหารทรัพยากรน้ำในอนาคตอย่างยั่งยืน
จากการประเมินความเสี่ยงของแหล่งน้ำ พบว่า แหล่งน้ำบาดาลที่หาดทิพย์ใช้สำหรับการดำเนินกิจกรรมขององค์กรอยู่บนพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ รวมถึงมีค่าความเครียดของแหล่งน้ำต่ำ
Total treated Wastewater (Cubic Meters)
รักน้ำ
หาดทิพย์ ตระหนักดีว่า “น้ำ” เป็นปัจจัยที่สำคัญของ สิ่งมีชีวิตและความยั่งยืนของชุมชน
อีกทั้งทรัพยากรน้ำ คือวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ จึงได้ร่วมริเริ่มโครงการพร้อมกับกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนในท้องถิ่น เพื่อร่วม รับผิดชอบต่อสังคม และสร้างจิตสำนึกในการรู้คุณค่าของทรัพยากรน้ำทั่งในบริษัท และชุมชน โดยมีเป้าหมาย คือ การคืนน้ำในปริมาณ เทียบเท่ากับที่นำมาผลิตเครื่องดื่มกลับสู่ชุมชนและธรรมชาติ อย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยได้ดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน
ผู้ได้รับผลประโยชน์ตลอดโครงการ
มากกว่า
80 หมู่บ้าน
มากกว่า
4,000 ครัวเรือน
จำนวนการติดตั้ง
ติดตั้งฝายชะลอน้ำ
มากกว่า
900 ฝาย
ติดตั้งประปาภูเขา
มากกว่า
40 จุด
ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้
ตลอดโครงการมากกว่า
1,800,000 m3
ลูกบาศก์เมตร
จำนวนการปลูกต้นไม้
ปลูกต้นไม้ยืนต้น มากกว่า
12,000
จำนวนการปลูกต้นไม้
ลูกหญ้าแฝก มากกว่า
250,000
Waste Management
การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์เป็นเรื่องที่สำคัญมากในภาคธุรกิจเครื่องดื่ม หาดทิพย์ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีการใช้พลาสติกบรรจุภัณฑ์ ได้มองเห็นว่าการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรได้อีกด้วย จึงกำหนดกลยุทธ์และแผนธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบาย “World Without Waste” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์หลักของกลุ่มธุรกิจ The Coca-Cola Company เท่านั้น แต่ยังเน้นให้ความสำคัญต่อการรับมือและแก้ไขวิกฤตขยะจากบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก ซึ่งมาจากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้เครื่องหมายการค้าของ The Coca-Cola เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรอย่างแท้จริง
บรรจุภัณฑ์ PET: สามารถรีไซเคิลได้
100%
บรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียม
- สามารถรีไซเคิลได้ 100%
- มีส่วนประกอบอะลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 90%
Glass Bottle
บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว: มีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิลได้
45-65%
ขยะทั่วไป
ขยะรีไซเคิล
ขยะอันตราย
การจัดการของเสีย
บริษัทฯ มีแผนบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุเหลือใช้ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมขององค์กร โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด จึงได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการรีไซเคิลขยะและของเสียให้ได้มากกว่า 90% พร้อมลดปริมาณขยะทั่วไปให้น้อยกว่า 10% ทุกปี เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลขยะและลดปริมาณขยะฝังกลบจากการผลิต อีกทั้งบริษัทฯ ได้จัดทำคู่มือการจัดการของเสียพร้อมมีการอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจในการคัดแยกขยะและจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สัดส่วนขยะรีไซเคิลจำแนกตามชนิด
โครงการเก็บรวบรวมและรีไซเคิลขวดพลาสติกใช้แล้ว


เพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ World Without Waste ของ บริษัท เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี ในการสร้างโลกไร้ขยะ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่มุ่งใช้และจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบและยั่งยืนให้สอดคล้องต่อการแสดงจุดยืนในหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility) ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมพลาสติกและรีไซเคิลอย่าง บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิงหวอไท่ จำกัด และบริษัท จิ่วหลงไทย จำกัด จัดทำโครงการเก็บรวบรวมขวดพลาสติก PET ที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งในปี 2563 สามารถรวบรวมขวดพลาสติก PET ใช้แล้วได้ประมาณ 14,000 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงสุดถึง 32,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า