Energy & Climate Change

แม้ว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของอาหารและเครื่องดื่มในอัตรากว้าง ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเพิ่มผลกระทบต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เป็นปัญหาสำคัญระดับโลก หาดทิพย์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฯ ได้ให้ความสำคัญ และมีความตระหนักถึงผลกระทบจากการการดำเนินงานต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี จึงมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบอันเกิดจากการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายในการควบคุมและลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามมาตรฐานสากล ซื่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการให้ความร่วมมือระดับโลกในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นโยบายสิ่งแวดล้อม
ดาวน์โหลด
นโยบายอนุรักษ์พลังงาน
ดาวน์โหลด
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)

หมายเหตุ:
- การกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกปี 2566 อ้างอิงข้อมูลปี 2562 เป็นปีฐาน

บริษัทฯ กำหนดแผนในการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยดำเนินการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกปี เพื่อหาแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบัน บริษัทฯ และบริษัทในเครือเดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี มีการกำหนดเป้าหมายร่วมกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมตามหลักวิทยาศาสตร์ (Science-based Target) โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกลงมากกว่าร้อยละ 25 เทียบจากข้อมูลปีฐาน พ.ศ. 2566 และ ลดลงอย่างน้อยร้อยละ 2.5 ต่อหน่วยการผลิต ในปี 2566 เทียบกับปีฐาน 2562

ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์

แผง

สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งหมด

กิโลวัตต์ / ต่อปี

ลดก๊าซเรือนกระจกได้

kgCO2e

ในปัจจุบัน ภาวะโลกร้อนกลายเป็นปัญหาระดับโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก รวมไปถึงกระบวนการทำงานของกลุ่มธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ หาดทิพย์มิได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน มีการตื่นตัวเตรียมรับมือและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามแก้ไขปัญหา บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการเสาะหานวัตกรรมใหม่ๆ และพลังงานสะอาดที่มีความยั่งยืน

โดยหนึ่งในโครงการสำคัญที่ได้ริเริ่มขึ้น คือ การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Rooftop) แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (On Grid) และแผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ (Solar Floating) จำนวนมากกว่า 9,000 แผง ซึ่งสามารถแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าทดแทนในกระบวนการผลิต อีกทั้งยังสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการดำเนินงานขององค์กร โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่องค์กรในระยะยาว เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการที่ใส่ใจในความยั่งยืน โดยหาดทิพย์ได้กำหนดแผนในการขยายพื้นที่สำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารสำนักงานและคลังสินค้าโรงงานหาดใหญ่ เพื่อผลักดันการใช้พลังงานสะอาด ทดแทนพลังงานจากถ่านหิน โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง 20% ภายในปี 2570

Haadthip Initiative

Water Management

ทรัพยากรน้ำเป็นวัตถุดิบหลักในการดำเนินธุรกิจ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสูญเสียทรัพยากร เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว หาดทิพย์เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้มีการจัดตั้งคณะทำงานและหน่วยงาน เพื่อรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพและลดการสูญเสียทรัพยากร พร้อมกำหนดเป้าหมายด้านการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน เนื่องด้วยหาดทิพย์มีการใช้น้ำบาดาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ หากไม่สามารถจัดการการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพได้ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ รวมทั้งชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่มีการพึ่งพาแหล่งน้ำภูมิภาคเดียวกัน เพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน บริษัทฯ จึงมีการประเมินความเสี่ยงของแหล่งน้ำเพื่อการผลิตอย่างยั่งยืน ผ่านการประเมินด้วยตนเองตามระบบมาตรฐาน The Coca-Cola Company ครอบคลุมประเด็นความเสี่ยงด้านการใช้น้ำต่างๆ พร้อมทั้งการประเมินร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีการจัดประเมินความเสี่ยงแหล่งน้ำทุกๆ 5 ปี ภายใต้มาตรฐานของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ Water Framework Directive (WFD) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤตอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำต่อการดำเนินธุรกิจ ชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงวางแผนการบริหารทรัพยากรน้ำในอนาคตอย่างยั่งยืน

จากการประเมินความเสี่ยงของแหล่งน้ำ พบว่า แหล่งน้ำบาดาลที่หาดทิพย์ใช้สำหรับการดำเนินกิจกรรมขององค์กรอยู่บนพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ รวมถึงมีค่าความเครียดของแหล่งน้ำต่ำ

ปริมาณการใช้น้ำทั้งหมด (ลูกบาศก์เมตร)
ปริมาณน้ำทิ้ง (ลูกบาศก์เมตร)

รักน้ำ

หาดทิพย์ ตระหนักดีว่า “น้ำ” เป็นปัจจัยที่สำคัญของ สิ่งมีชีวิตและความยั่งยืนของชุมชน

อีกทั้งทรัพยากรน้ำ คือวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ จึงได้ร่วมริเริ่มโครงการพร้อมกับกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนในท้องถิ่น เพื่อร่วม รับผิดชอบต่อสังคม และสร้างจิตสำนึกในการรู้คุณค่าของทรัพยากรน้ำทั่งในบริษัท และชุมชน โดยมีเป้าหมาย คือ การคืนน้ำในปริมาณ เทียบเท่ากับที่นำมาผลิตเครื่องดื่มกลับสู่ชุมชนและธรรมชาติ อย่างปลอดภัยและยั่งยืน โดยได้ดำเนินการตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 จนถึงปัจจุบัน

ผู้ได้รับผลประโยชน์ตลอดโครงการ

มากกว่า

80 หมู่บ้าน

มากกว่า

4,000 ครัวเรือน

จำนวนการติดตั้ง

ติดตั้งฝายชะลอน้ำ
มากกว่า

900 ฝาย

ติดตั้งประปาภูเขา
มากกว่า

40 จุด

ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้
ตลอดโครงการมากกว่า

1,800,000 m3

ลูกบาศก์เมตร

จำนวนการปลูกต้นไม้

ปลูกต้นไม้ยืนต้น มากกว่า

12,000

จำนวนการปลูกต้นไม้

ลูกหญ้าแฝก มากกว่า

250,000

Waste Management

การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์เป็นเรื่องที่สำคัญมากในภาคธุรกิจเครื่องดื่ม หาดทิพย์ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีการใช้พลาสติกบรรจุภัณฑ์ ได้มองเห็นว่าการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงแต่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรได้อีกด้วย จึงกำหนดกลยุทธ์และแผนธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบาย “World Without Waste” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์หลักของกลุ่มธุรกิจ The Coca-Cola Company เท่านั้น แต่ยังเน้นให้ความสำคัญต่อการรับมือและแก้ไขวิกฤตขยะจากบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก ซึ่งมาจากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้เครื่องหมายการค้าของ The Coca-Cola เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรอย่างแท้จริง

บรรจุภัณฑ์ PET: สามารถรีไซเคิลได้

100%

บรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียม

- สามารถรีไซเคิลได้ 100%

- มีส่วนประกอบอะลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 90%

Glass Bottle

บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว: มีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิลได้

45-65%

%

ขยะทั่วไป

%

ขยะรีไซเคิล

%

ขยะอันตราย

การจัดการของเสีย

บริษัทฯ มีแผนบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุเหลือใช้ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมขององค์กร โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด จึงได้กำหนดเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการรีไซเคิลขยะและของเสียให้ได้มากกว่า 90% พร้อมลดปริมาณขยะทั่วไปให้น้อยกว่า 10% ทุกปี เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลขยะและลดปริมาณขยะฝังกลบจากการผลิต อีกทั้งบริษัทฯ ได้จัดทำคู่มือการจัดการของเสียพร้อมมีการอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจในการคัดแยกขยะและจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สัดส่วนขยะรีไซเคิลจำแนกตามชนิด
โครงการเก็บรวบรวมและรีไซเคิลขวดพลาสติกใช้แล้ว

เพื่อดำเนินการตามวิสัยทัศน์ World Without Waste ของ บริษัท เดอะ โคคา-โคล่า คัมปะนี ในการสร้างโลกไร้ขยะ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มที่มุ่งใช้และจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบและยั่งยืนให้สอดคล้องต่อการแสดงจุดยืนในหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility) ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมพลาสติกและรีไซเคิลอย่าง บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์อินดัสตรี้ส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิงหวอไท่ จำกัด และบริษัท จิ่วหลงไทย จำกัด จัดทำโครงการเก็บรวบรวมขวดพลาสติก PET ที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งในปี 2563 สามารถรวบรวมขวดพลาสติก PET ใช้แล้วได้ประมาณ 14,000 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงสุดถึง 32,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า