หาดทิพย์เจอนี่
เครื่องถมเมืองนคร

เครื่องถมเมืองนคร: ศิลปะแห่งศรัทธา มรดกที่สลักไว้ด้วยชีวิตครูศิลป์
หากเอ่ยถึงหัตถศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความประณีต ละเมียดงามและสะท้อนภูมิปัญญาไทยอันลึกซึ้ง “เครื่องถมเมืองนครศรีธรรมราช” คือหนึ่งในศิลปะแห่งศรัทธาที่ถูกสรรค์สร้างด้วยวิริยะ ความละเอียดอ่อนและหัวใจที่มั่นคงของช่างผู้สร้าง


รากเหง้าแห่งศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า
เครื่องถมเมืองนครศรีธรรมราชไม่ใช่เพียงเครื่องประดับ หากแต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดดเด่นด้วยเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า “การลงยาถม” ศิลปะแห่งการผสมโลหะสีดำสนิทให้ซึมลึกลงในร่องลายที่สลักบนเนื้อเงินอย่างถาวร
เส้นสายจากปลายสิ่วเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ แกะสลักลวดลายไทยอันอ่อนช้อยนั้น คือร่องรอยของสมาธิ ความอดทนและความรักในศิลป์ที่สืบต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ เมื่อลงยาถมแล้ว ความดำขลับที่ปรากฏยิ่งขับให้ลายเงินดูเด่นงาม มีมิติและเปล่งประกายลุ่มลึกดั่งแสงแห่งศรัทธา

ด้วยเอกลักษณ์อันงดงามและวิจิตร เครื่องถมเมืองนครจึงได้รับเกียรติสูงสุดในอดีต เป็นเครื่องราชบรรณาการในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเฉพาะไม้กางเขนถมที่ถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปา ณ กรุงโรม อันเป็นหลักฐานแห่งชื่อเสียงของฝีมือช่างไทยที่เลื่องลือไปทั่วโลก

สืบศิลป์...ให้ศรัทธาไม่เลือนหาย
ด้วยความห่วงใยในศิลปะแห่งบ้านเกิด ท่านเจ้าคุณรัตนธัชมุนี (พ่อท่านม่วง) แห่งวัดท่าโพธิ์ จึงได้ก่อตั้ง “โรงเรียนช่างถมวัดท่าโพธิ์” เพื่อสืบทอดองค์ความรู้และปลูกฝังช่างรุ่นใหม่ให้คงอยู่กับผืนแผ่นดิน
สถาบันแห่งนี้ได้เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น “วิทยาลัยอาชีวศึกษา” ที่ยังคงเปิดสอนวิชาเครื่องถมในฐานะวิชาอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาแห่งศิลป์ที่เป็นรากเหง้าของชาวนครศรีธรรมราช



ครูศิลป์ผู้สืบต่อแสงแห่งศรัทธา
ในบรรดาผู้ที่อุทิศชีวิตเพื่อธำรงรักษาศิลปะเครื่องถมเมืองนคร หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ยืนหยัดรักษาและต่อยอดศิลปะแขนงนี้ คือ อาจารย์นิคม นกอักษร — ครูศิลป์ของแผ่นดิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องโลหะ ประจำปี พ.ศ. 2555 ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนแสงแห่งศรัทธาที่ส่องให้ศิลปะโบราณแขนงนี้ยังคงเปล่งประกาย อาจารย์นิคมเติบโตขึ้นจากสายศิลป์ดั้งเดิม ท่านจบการศึกษาวิชาเอกเครื่องถมจากโรงเรียนศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราชและศึกษาต่อที่วิทยาลัยเพาะช่าง ทำให้ท่านมีทั้งรากฐานทางช่างฝีมือดั้งเดิมและความเข้าใจมุมมองทางศิลปะร่วมสมัยที่ลุ่มลึกและละเอียดอ่อน



กว่า 27 ปีแห่งการอุทิศตน ท่านได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ศิษย์มากมาย ทั้งในหน่วยงานราชการและภาคเอกชน หลายคนได้กลายเป็นผู้สืบต่อรอยทางศิลป์ในหลากหลายมุมของประเทศ ขณะเดียวกัน อาจารย์ยังคงสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทั้งงานเครื่องถมแบบดั้งเดิมและศิลป์ร่วมสมัย เช่น ประติมากรรมช้างขนาดใหญ่ ณ สี่แยกเมืองกระบี่และประติมากรรมนกเงือก ณ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
และในปีหน้า ท่านเตรียมนำเสนอผลงานเพื่อเข้ารับการพิจารณาเป็น “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาทัศนศิลป์ (เครื่องถม) อีกหนึ่งก้าวสำคัญแห่งความภาคภูมิใจของวงการศิลปหัตถกรรมไทย


เบื้องหลังความงาม : ศิลป์ที่หลอมรวมทั้งฝีมือและหัวใจ
ทุกชิ้นงานเครื่องถม ล้วนเกิดจากความละเอียดละเมียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหลอมเงินบริสุทธิ์ผสมทองแดงให้ได้เนื้อโลหะแข็งแรง ก่อนรีดเป็นแผ่นบางเพื่อสลักลาย ด้วยสิ่วปลายแหลมที่ขีดลวดลายไทยทีละเส้น ลายกนก เครือเถา หรือดอกพิกุล...ทุกเส้นสายล้วนเต็มไปด้วยลมหายใจของช่างผู้สร้าง
ขั้นตอนสุดท้าย — “การลงยาถม” คือหัวใจของงาน โลหะผสมสีดำตามสูตรเฉพาะถิ่นจะถูกหลอมลงในร่องลาย ก่อนเผาให้ประสานกับเนื้อเงินอย่างกลมกลืน แล้วขัดจนขึ้นเงางาม ความดำขลับที่ปรากฏไม่เพียงทนทาน หากยังสะท้อนความลุ่มลึกของศิลปะแห่งแผ่นดิน ที่หลอมรวมฝีมือ ความอดทนและหัวใจของช่างไว้อย่างงดงาม



สืบต่อศิลป์...ให้ศรัทธาไม่จางหาย
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนผ่าน ความนิยมและต้นทุนวัตถุดิบอาจเปลี่ยนไป แต่อาจารย์นิคมยังคงเชื่อมั่นว่า ศิลปะแห่งเครื่องถมจะไม่มีวันสูญหาย ตราบใดที่ยังมีผู้คนที่รักและตั้งใจจะเรียนรู้
ด้วยสายตาที่มองเห็นทั้งคุณค่าในอดีตและโอกาสในอนาคต ท่านได้กำหนดแนวทางการสร้างสรรค์ไว้สองแนวทางสำคัญ


- งานอนุรักษ์ (ดั้งเดิม) ผลิตตามแบบแผนโบราณ เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของช่างถมเมืองนคร
- งานสร้างสรรค์ (ร่วมสมัย) ผสมผสานแนวคิดใหม่ให้เข้ากับยุคปัจจุบัน สะท้อนความร่วมสมัยแต่ยังคงรากศิลป์ไว้ไม่เสื่อมคลาย
เพื่อต่อยอดและเปิดโอกาสให้คนรุ่นหลังได้เข้าถึงศาสตร์แห่งเครื่องถม อาจารย์นิคมได้ก่อตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้นครหัตถกรรม” เปิดบ้านต้อนรับผู้สนใจให้เข้ามาศึกษา ฝึกฝนและสัมผัสจิตวิญญาณของความเป็นช่างอย่างใกล้ชิด เพราะสำหรับท่านแล้ว เครื่องถมมิใช่เพียงงานศิลป์ หากคือชีวิต — ที่หลอมรวมความอดทน ความรักและความศรัทธาในรากเหง้าแห่งแผ่นดินไว้อย่างงดงาม

ปลายทางของความงาม...คือการคงอยู่
เมื่อแสงแดดสะท้อนบนผิวเครื่องถมสีดำขลับ จะเห็นประกายวาวอ่อน ๆ ดั่งลมหายใจของช่างผู้สร้าง ทั้งสงบ ลึก และมั่นคง เครื่องถมเมืองนครจึงมิใช่เพียงเครื่องประดับ หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของหัวใจไทย ที่ยังคงเต้นอยู่ในทุกจังหวะของศิลปะและศรัทธา — ศิลปะแห่งความเพียร ความประณีตและความรักในรากเหง้าแห่งแผ่นดิน
ตราบใดที่ยังมีผู้คนมองเห็นคุณค่าในแสงเงาแห่งความงามนี้ เครื่องถมเมืองนครก็จะยังคงอยู่ — อยู่ในมือของช่าง อยู่ในใจของศิลปินและอยู่ในความทรงจำของผืนแผ่นดินไทยไปตราบนานเท่านาน 🌙