หาดทิพย์เจอนี่
สานรัก สานศรัทธา ใต้ร่มพระบารมี

สานรัก สานศรัทธา ใต้ร่มพระบารมี - เรื่องเล่าจากทายาทจักสานย่านลิเภา
สานเส้นใยแห่งพระเมตตา: ย่านลิเภา ศิลป์แห่งชีวิต...จากป่าสู่หัตถศิลป์ร่วมสมัย
ยามบ่ายในเมืองนครศรีธรรมราช...กลิ่นไม้แห้งหอมอ่อนลอยคลุ้งในอากาศ เสียงเส้นใยเล็ก ๆ เสียดสีกันเบา ๆ คล้ายเสียงลมหายใจของผืนดิน เสียงนั้นไม่ใช่แค่เสียงของงานฝีมือ แต่คือเสียงของชีวิตที่เคยเกือบเลือนหายไปจากแผ่นดินใต้
ครั้งหนึ่ง “ย่านลิเภา” พืชป่าตระกูลเฟิร์นเส้นเล็ก ๆ จากป่าดิบชื้น — เคยเป็นเพียงเส้นใยธรรมดาในสายตาใครหลายคน แต่เพราะสายพระเนตรอันยาวไกลและพระเมตตาอันล้นพ้นของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เส้นใยจากป่าจึงได้ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง กลายเป็นหัตถศิลป์ที่บอกเล่ารากเหง้าและหัวใจของผู้คนในแดนใต้




จากเส้นใยในป่า...สู่พระราชดำริแห่งการฟื้นฟู
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2517 ขณะเสด็จเยี่ยมราษฎรที่จังหวัดนราธิวาส พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเครื่องจักสานย่านลิเภาอันงดงามและทรงเห็นคุณค่าที่ซ่อนอยู่ในเส้นใยเล็ก ๆ เหล่านั้น — ภูมิปัญญาแห่งวิถีชุมชนที่ควรค่าแก่การสืบต่อ จากวันนั้น จึงทรงมีพระราชดำริให้ฟื้นฟู “กลุ่มจักสานย่านลิเภา” ขึ้น เพื่อให้คนในท้องถิ่นมีอาชีพที่มั่นคง พร้อมกับการอนุรักษ์ศิลปะท้องถิ่นอันวิจิตรงดงามไม่ให้เลือนหายไป
จากวันนั้นย่านลิเภาที่เคยเป็นเพียงพืชในป่า ก็ได้กลายเป็นศิลป์แห่งชีวิตที่สร้างอาชีพ สร้างศักดิ์ศรีและสร้างความหวังให้กับช่างฝีมือและชุมชนในภาคใต้จวบจนปัจจุบัน



LIPAO CRAFT NAPARAT มรดกที่มีชีวิต...สานต่อแรงบันดาลใจ
พระเมตตาในวันนั้น ได้หยั่งรากลึกและเติบโตเป็นแรงบันดาลใจ ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น...หนึ่งในผู้ที่สืบต่อเรื่องราวนั้นคือ “พี่กุล – คุณนภารัตน์ ทองเสภี” ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งบ้านนาเคียน จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้เติบโตท่ามกลางกลิ่นของไม้และเสียงจักสานที่แผ่วเบาไม่ต่างจากเสียงลมหายใจของบ้าน โดยมี “คุณแม่สุเจนจิต ทองเสภี” ครูช่างศิลปหัตถกรรมไทย ปี 2560 เป็นผู้ถ่ายทอดหัวใจของงานฝีมือนี้ให้
“ลิเภาอยู่กับบ้านเรามานาน ตั้งแต่รุ่นแม่ รุ่นยาย เราก็เติบโตมากับมัน” พี่กุลเล่าด้วยน้ำเสียงละมุน
จากวิสาหกิจชุมชนเล็ก ๆ ในวันนั้น สู่แบรนด์ LIPAO CRAFT NAPARAT ในวันนี้ คือเส้นทางของการสานต่อพระเมตตา ให้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่มีชีวิต
“ย่านลิเภาอาจเป็นเส้นไม้จากป่า แต่พระองค์ทรงเห็นคุณค่า... ทำให้เราภูมิใจที่เป็นคนพื้นถิ่นและเป็นแหล่งผลิตโดยตรง มีงานฝีมือติดตัวและต่อยอดได้ ยิ่งเห็นพระองค์ใช้และสนับสนุน ก็ยิ่งมีแรงบันดาลใจที่จะขับเคลื่อนและสืบสานงานจักสานให้คงอยู่ต่อไป” คำพูดเรียบง่ายของพี่กุลเต็มไปด้วยความศรัทธา — ศรัทธาในงานศิลป์ที่มาจากรากเหง้าและศรัทธาในพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่มีวันจาง
และในวันนี้ LIPAO CRAFT NAPARAT ยังได้รับ การสนับสนุนจากสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เพื่อสืบสานและอนุรักษ์งานจักสานย่านลิเภาให้คงอยู่ พร้อมผลักดันให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการพัฒนาองค์ความรู้ การยกระดับผลิตภัณฑ์และการสร้างโอกาสให้ช่างฝีมือท้องถิ่นได้ก้าวสู่เวทีสากล
การสนับสนุนครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นแรงหนุนทางอาชีพ หากแต่เป็นการต่ออายุให้กับมรดกที่มีชีวิต ให้ยังคงหายใจอยู่ในวิถีของผู้คนและเปล่งประกายด้วยศรัทธาในทุกเส้นลายของย่านลิเภา



จากหัตถศิลป์พื้นบ้าน...สู่ศิลป์ร่วมสมัยที่หัวใจคือความเป็นไทย
ย่านลิเภาเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของ “ความอดทนและความละเมียด” เส้นเถาที่เรียวยาวแต่เหนียวแน่น ต้องผ่านการคัด ผ่าและขัดเกลาอย่างประณีต ก่อนจะถักทอเป็นลวดลายที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
หัวใจของ LIPAO CRAFT NAPARAT คือการรักษางานช่างดั้งเดิมให้คงอยู่ พร้อมใส่ลมหายใจของยุคสมัยใหม่เข้าไป — ตามแนวพระราชดำริที่ทรงอยากให้งานหัตถศิลป์ไทยก้าวไปสู่ระดับสากล “เราอยากให้ย่านลิเภาไม่หยุดอยู่แค่ของโบราณ แต่กลายเป็นของร่วมสมัยที่ใครเห็นก็อยากใช้” พี่กุลเอ่ยอย่างอ่อนโยน
เอกลักษณ์ของแบรนด์นภารัตน์ จึงอยู่ที่การ “ชูเส้น” มากกว่า “ชูเครื่อง” เน้นความงามตามธรรมชาติของเส้นลิเภาที่สานอย่างละเอียด ผสานกับดีไซน์ที่เรียบหรูและที่สำคัญ คือ การนำเครื่องถมศิลปะชั้นสูงอีกแขนงหนึ่งของเมืองนครฯ มาผสมผสานอย่างลงตัว เพิ่มคุณค่าให้ผลงานแต่ละชิ้นเป็นดั่งงานศิลปะที่มีชีวิตและพร้อมจะเดินทางไปกับผู้คนทั่วโลก



เส้นใยที่ถักทอด้วยพระเมตตา
จากเส้นใยเล็ก ๆ ในป่า สู่หัตถศิลป์ที่เปี่ยมด้วยความหมาย ทุกครั้งที่เส้นลิเภาบาง ๆ ถูกสานเข้าด้วยกัน ไม่เพียงสร้างลวดลายอันงดงาม แต่ยังถักทอสายใยแห่งพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมอบไว้ให้ราษฎรไทยได้มีอาชีพ มีศักดิ์ศรีและมีความภูมิใจในผืนดินของตนเอง
ย่านลิเภา...จึงไม่ใช่แค่ศิลป์แห่งความงาม หากแต่คือ “ศิลป์แห่งชีวิต” ที่ยังคงเต้นอยู่ในหัวใจของคนไทยตราบนานเท่านาน
