หาดทิพย์ รายงานผลการใช้เงินทุนส่วนที่เพิ่มทุน

06 กุมภาพันธ์ 2540
บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ตามที่บริษัทฯ ได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากมติเพิ่ม ทุนคงค้างให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 3,320,250 หุ้น ในราคาหุ้นละ 20.00 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้รับเงิน จากการเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น66,405,000.00 บาท (หกสิบหกล้านสี่แสนห้าพันบาทถ้วน) โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้เป็นเงินลงทุนส่วนหนึ่งในการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่อำเภอพุนพิน จังหวัด สุราษฎร์ธานี และซื้อเครื่องจักรใหม่ นั้น เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ที่อ้างถึง บริษัทฯ ขอรายงานผลการใช้ เงินทุนส่วนที่เพิ่ม สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2539 ดังนี้ 1. การก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนิน การถมดินสำหรับบริเวณที่จะสร้างเป็นตัวโรงงาน อาคารสำนักงาน และคลังสินค้าไปแล้วประมาณ 40 ไร่ ทำถนนเข้าพื้นที่ ทำรั้ว สำรวจและขุดเจาะบ่อบาดาลสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำอัดลม ออกแบบแปลนโรงงานและอาคารสำนักงาน ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้เงินในส่วนนี้ไปแล้วทั้งสิ้นประมาณ 8 ล้านบาท 2. ซื้อที่ดินที่จะสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพิ่มอีกประมาณ 13 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคตระยะกลาง 3. ยังคงเหลือเงินทุนส่วนที่เพิ่ม จำนวนประมาณ 45 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ใช้เงินทุนส่วนที่ เหลือนี้ในการดำเนินการ 3.1 สร้างคลังสินค้าของบริษัทฯ เองแทนคลังเช่าซึ่งมีเนื้อที่จำกัดและเพื่อจำหน่ายเอง แทนการขายผ่านเอเยนต์ และซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในคลัง ที่จังหวัดกระบี่ ภูเก็ต ยะลา และ อำเภอหลังสวน รวมทั้งซ่อมแซมคลังสินค้าอื่นๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 25 ล้านบาท 3.2 ลงทุนในยานพาหนะเพื่อใช้ในการกระจายสินค้า จำนวนประมาณ 22 ล้านบาท บริษัทฯ ได้นำเงินทุนส่วนที่เพิ่มไปใช้ตามข้อ 3.1 และ ข้อ 3.2 ซึ่งเป็นการใช้เงินทุนนอกเหนือ ไปจากวัตถุประสงค์หลักของการเพิ่มทุนตามที่ได้แจ้งไว้ ซึ่งบริษัทฯ ขอเรียนว่าการลงทุนดังกล่าวเป็น ส่วนหนึ่งของการลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ด้วย ทั้งนี้เพราะ บริษัทฯ ต้องเตรียม พร้อมในการเพิ่มศักยภาพของคลังสินค้า และการกระจายสินค้าเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด ซึ่งจะ ทำให้เกิดรายได้และผลกำไรมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ อนึ่ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจปี 2539 ไม่เอื้ออำนวย ยอดขายของบริษัทฯ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้ง ไว้มาก และคาดว่าในปี 2540 ภาวะต่างๆ จะไม่ดีขึ้นมากนัก และยอดขายก็คงจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำ กว่าที่เป็นมาในปี 2535 และ 2536 เมื่อสถาณการณ์เปลี่ยนไปเช่นนี้ ถ้าบริษัทฯ จะยังคงก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ต่อไปตามแผนงานเดิม ซึ่งบริษัทฯ ต้องใช้เงิน ลงทุนเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทในขั้นแรก และอีกประมาณ 500 ล้านบาทในขั้นที่ 2 ซึ่งการลง ทุนดังกล่าว ในท่ามกลางความถดถอยของเศรษฐกิจทั่วไปในประเทศ โดยเฉพาะรายได้ของประชากร ย่อมไม่คุ้มค่ากับการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องชะลอโครงการก่อ สร้างโรงงานแห่งที่ 2 ตามแผนงานที่ได้วางไว้ออกไปก่อน โดยเลื่อนจากกำหนดเดิมภายในสิ้นปี 2540 เป็นปี 2542 แต่บริษัทฯ จะยังคงสร้างตัวคลังสินค้าซึ่งเป็นคลังที่ 2 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อ ไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทั้งนี้ เพื่อช่วยกระจายสินค้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้ดียิ่งขึ้น